1. Agarwood Crassna (Aquilaria crassna - Thailand)

ไม้กฤษณา เป็นของมงคลที่ถูกกล่าวไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลว่ามีราคาแพงดั่งทองคำ แก่นไม้ที่มีกฤษณาถูกนำไปใช้เป็นเครื่องหอมบรรณาการสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงสำหรับประกอบพิธีกรรม นำไปจุดให้กลิ่นหอมต้อนรับแขกคนสำคัญ ทำเครื่องประทินผิว หรือใช้ในตำรับยาสำคัญ น้ำมันมีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิตในหัวใจ ใช้เป็นยาหอม น้ำมันกฤษณาของไทยถือว่ามีคุณภาพระดับดีมาก กฤษณาสายพันธ์ Crassna ให้กลิ่นหอมโทน Floral ได้รับความนิยมทำเครื่องหอมมากที่สุด

2. Agarwood Crassna 10% (Aquilaria crassna - Thailand)

ไม้กฤษณา เป็นของมงคลที่ถูกกล่าวไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลว่ามีราคาแพงดั่งทองคำ แก่นไม้ที่มีกฤษณาถูกนำไปใช้เป็นเครื่องหอมบรรณาการสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงสำหรับประกอบพิธีกรรม นำไปจุดให้กลิ่นหอมต้อนรับแขกคนสำคัญ ทำเครื่องประทินผิว หรือใช้ในตำรับยาสำคัญ น้ำมันกฤษณาของไทยถือว่ามีคุณภาพระดับดีมาก น้ำมันหอมระเหยสายพันธ์ Crassna ตัวนี้เป็นแบบเจือจาง 10% ในแอลกอฮอล์สำหรับใช้ทำน้ำหอมหรือจุดให้กลิ่นหอมเท่านั้น .. [ทำไมต้อง 10%]

3. Agarwood Subintegra (Aquilaria subintegra - Thailand)

ไม้กฤษณา เป็นของมงคลที่ถูกกล่าวไว้ตั้งแต่สมัยพุทธกาลว่ามีราคาแพงดั่งทองคำ แก่นไม้ที่มีกฤษณาถูกนำไปใช้เป็นเครื่องหอมบรรณาการสำหรับกษัตริย์และชนชั้นสูงสำหรับประกอบพิธีกรรม นำไปจุดให้กลิ่นหอมต้อนรับแขกคนสำคัญ ทำเครื่องประทินผิว หรือใช้ในตำรับยาสำคัญ มีสรรพคุณช่วยบำรุงโลหิตในหัวใจ ใช้เป็นยาหอม น้ำมันกฤษณาของไทยถือว่ามีคุณภาพระดับดีมาก สายพันธ์ Subintegra ค่อนข้างหายาก กลิ่นหอมออกโทน Floral และ Spice ให้ความรู้สึกลึกลับ

4. Anise Star (Illicium verum - Thailand)

Star Anise (โป๊ยกั๊ก) หรือชื่อภาษาไทยว่าจันทร์แปดกลีบ เป็นสมุนไพรเครื่องเทศที่เป็นที่รู้จักกันดี มีถิ่นกำเนิดอยู่ในประเทศจีน เวียตนาม และไทย น้ำมันหอมระเหยสกัดมาจากเมล็ดของผลที่เป็นรูปดาว มีกลิ่นหอมเผ็ดหวาน มีคุณสมบัติช่วยขับลม ขับเสมหะและแก้ไอ เมื่อสูดดมหรือนำไปจุดกับเตาน้ำมันหอมระเหยในห้องจะช่วยให้รู้สึกอบอุ่น คลายอาการเหน็บชาจากความหนาว ช่วยให้รู้สึกมีพลัง เพราะมีคุณสมบัติในการกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและการทำงานของร่างกาย

5. Balsum Peru (Myroxylon balsamum var. pererae - El Salvador)

บาลซัม เปรู เป็นไม้ยืนต้นที่มีถิ่นกำเนิดในโซนอเมริกากลางลงไปใต้ กลิ่นหอมสกัดได้จากยางส่วนเปลือกและไม้ ให้กลิ่นหอมที่คล้ายคลึงกับกลิ่นหวานของวานิลลาผสมกับโทนกลิ่น Balsamic ของแลบดานัม เนื่องด้วยมีราคาที่ถูกกว่ากลิ่นทั้ง 2 มากจึงได้รับความนิยมในการนำไปใช้ทดแทนในการทำเครื่องหอมต่าง ๆ ใช้เป็น Base Note ร่วมกับน้ำหอมในโทนกลิ่น Floral เช่น ลาเวนเดอร์ แพทชูลี่ กระดังงา หรือซ่อนกลิ่น ก็เป็นทางเลือกที่ดี

6. Balsum Peru Extra (Myroxylon balsamum var. pererae - El Salvador)

Balsum Peru Extra เป็นเกรดที่มีเทคนิคการสกัดที่เข้มข้นกว่าแบบปกติ ทำให้ได้กลิ่นหอมที่ดีขึ้นอีกระดับเทียบกับแบบธรรมดา สารสกัดให้กลิ่นหอมที่คล้ายคลึงกับกลิ่นหวานของวานิลลาผสมกับโทนกลิ่น Balsamic ของแลบดานัม เนื่องด้วยมีราคาที่ถูกกว่ากลิ่นทั้ง 2 มากจึงได้รับความนิยมในการนำไปใช้ทดแทนในการทำเครื่องหอมต่าง ๆ ใช้เป็น Base Note ร่วมกับน้ำหอมในโทนกลิ่น Floral เช่น ลาเวนเดอร์ แพทชูลี่ กระดังงา หรือซ่อนกลิ่น ก็เป็นทางเลือกที่ดี

7. Basil Holy (Ocimum sanctum - India)

น้ำมันหอมระเหยจากใบกระเพราสกัดมาจากใบและกิ่งสด ด้วยคุณสมบัติของใบกระเพราที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ต้านอาการอักเสบ และช่วยขับลม แก้ ท้องอืด ท้องเฟ้อ หรือจุกเสียด จึงสามารถนำน้ำมันหอมระเหยใบกระเพรามาผสมในน้ำมันพื้นฐาน เช่น Grapeseed สำหรับใช้ในการนวดบริเวณช่วงท้องเพื่อรักษาอาการดังกล่าวได้ หรือสามารถนำไปใช้แต่งกลิ่นหรือกระจายกลิ่นในอากาศสำหรับผู้ที่ชอบบรรยากาศและกลิ่นหอมของกระเพรา

8. Basil Sweet (Ocimum basilicum ct. methyl chavicol - Thailand)

น้ำมันหอมระเหย Basil Sweet หรือโหระพา มีกลิ่นฉุนตามธรรมชาติ มีคุณสมบัติช่วยลดความเครียด ฟื้นฟูจิตใจ ทำให้สดชื่นมีชีวิตชีวา นำไปผสมเจือจางกับน้ำมันพื้นฐานสำหรับนวดขมับลดอาการปวดศีรษะ หรือนวดบริเวณท้องช่วยบำรุงระบบทางเดินอาหาร ลดอาการปวดประจำเดือน การสูดดมน้ำมันหอมระเหยตัวนี้ ช่วยให้ผ่อนคลายความเหนื่อยเมื่อยล้า สามารถนำไปประคบเย็นเพื่อลดอาการระคายเคือง บวมคันหรือปวดแสบปวดร้อนอันเนื่องมาจากแมลงสัตว์กัดต่อย

9. Basil Wild (Ocimum gratissimum - Vietnam)

น้ำมันหอมระเหยยี่หร่า มีกลิ่นหอมแรงเผ็ดร้อนคล้ายใบกระเพรา น้ำมันหอมระเหยผลิตจากใบ ซึ่งใช้ในน้ำหอม สุคนธบำบัด และยาแผนโบราณ มีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ เช่น บำรุงธาตุ ขับเหงื่อและของเสียจากร่างกาย ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ ต้านการอักเสบ บำรุงระบบย่อยอาหาร ลดอาการปวดท้องเนื่องจากอาหารไม่ย่อย แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม ระงับอาการหดเกร็งของลำไส้ นอกจากนี้ยังใช้เพื่อคลายความเครียด ปวดศีรษะ และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกันได้ด้วย

10. Bay West Indian (Pimenta racemosa - India)

น้ำมันหอมระเหยเบย์ สกัดมาจากส่วนกิ่งและใบของต้น มีกลิ่นแหลมสดชื่นแบบใบไม้และอาจฉุนเล็กน้อย ได้รับความนิยมเป็นส่วนประกอบของโทนิคและแชมพู เนื่องจากมีคุณสมบัติในการทำความสะอาดหนังศีรษะ ขจัดรังแคและกระตุ้นการเจริญเติบโตของรากผมใหม่ให้ดกดำเงางาม อีกทั้งในบางโอกาสยังสามารถนำไปใช้ประคบร้อนเพื่อรักษาอาการปวดได้ น้ำมันหอมระเหยเข้ากันได้ดีกับ โรสแมรี่ จูนิเพอร์ และกระดังงา ช่วยกระตุ้นการเติบโตของรากผม

11. Benzoin Siam 50% (Styrax tonkinensis - Thailand)

กำยานญวณหรือ Benzoin Siam เป็นกำยานที่มีกลิ่นหอมดีที่สุด กลิ่นหอมสกัดได้จากเรซิ่นยางของต้นกำยานที่มีอายุ 4-6 ปีขึ้นไป มีกลิ่นหอมหวานคล้ายวานิลลา ในสมัยก่อนนิยมนำไปใช้ปรุงน้ำอบไทยและทำเครื่องหอมหลากหลายชนิด มีสรรพคุณช่วยแก้ลม บำรุงเส้น บำรุงหัวใจ ขับปัสสาวะ สมานแผลและดับกลิ่น สารสกัดมีลักษะเหนียวข้นและนำไปใช้ค่อนข้างยาก เราจึงผสมกับน้ำมันหอมระเหยลาเวนเดอร์ และกำจัดเรซิ่นยางบางส่วนออกให้เป็นของเหลวใสใช้งานได้ง่าย

12. Bergamot (Citrus bergamia - Italy)

เบอร์กามอท มีถิ่นกำเนิดจากประเทศอิตาลี น้ำมันหอมระเหยมีสีเขียวอ่อนใส สกัดด้วยวิธีการกลั่นด้วยไอน้ำ มีกลิ่นหอมสดชื่น จึงได้รับความนิยมนำไปใช้ในด้านการบำบัดอาการซึมเศร้า วิตกกังวล เครียด และอาการทางด้านจิตใจต่าง ๆ ได้ผลเป็นอย่างดี สามารถนำไปใช้กระจายกลิ่นเพื่อฆ่าเชื้อโรคในอากาศ ไล่แมลง หรือสูดดมเพื่อบำรุงระบบทางเดินหายใจช่วยให้รู้สึกโล่งสบาย บรรเทาอาการคัดจมูกหรือไม่สบายจากไข้หวัด เข้ากันได้ดีกับเปปเปอร์มิ้นท์และยูคาลิปตัส

13. Bergamot FCF (Citrus bergamia - Italy)

Bergamot FCF (FuroCoumarins Free) แตกต่างจากน้ำมันหอมระเหย Bergamot ทั่วไปตรงที่มีการสกัดเอาสาร Coumarins ที่เป็นสาเหตุให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองเวลาถูกแสงแดดออกไป ทำให้หมดปัญหาเรื่อง Photosensitivity และสามารถนำไปใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ใช้ในระหว่างวันหรือช่วงเวลาออกแดดได้อย่างไม่มีปัญหา น้ำมันหอมระเหยมีกลิ่นหอมสดชื่น นำไปใช้ช่วยผ่อนคลาย บำบัดอาการซึมเศร้า คลายเครียด ได้เป็นอย่างดี

14. Betel Vine (Piper betle - Thailand)

น้ำมันหอมระเหยจากใบพลู หรือ Betel Leaf มีสีเหลืองออกน้ำตาลเข้ม มีกลิ่นฉุนค่อนข้างมาก มีแหล่งกำเนิดอยู่ในไทย อินเดีย และอินโดนีเซีย ใบมีสรรพคุณช่วยกระตุ้นน้ำลาย ขับเสมหะ ขับเหงื่อ ลมพิษ ฆ่าพยาธิ รักษาแผลช้ำหรือบวม แก้ปวดท้องหรือใช้เป็นยาระบายบรรเทาอาการท้องผูก หรือใช้เป็นยาเจริญอาหาร น้ำมันพลูมีฤทธิ์ในการยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและเชื้อราได้หลายชนิด เหมาะสำหรับใช้เป็นส่วนผสมในครีมหรือน้ำมันนวดบริเวณช่องท้องเพื่อดูแลระบบทางเดินอาหาร

15. Blackpepper (Piper nigrum - Indonesia)

น้ำมันหอมระเหยพริกไทยดำ มีสีเหลืองอ่อน มีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต จึงได้รับความนิยมในการนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์สปาต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับนวดเพื่อเผาผลาญไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นต้นขา แขน หรือนำน้ำมัน Massage Oil ที่มีส่วนผสมของ Blackpepper นวดบริเวณช่องท้องเพื่อช่วยระบบย่อยอาหาร เข้ากันได้ดีกับ Cypress และ Marjoram เพื่อความปลอดภัยผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายควรใช้ในปริมาณเจือจางไม่เกิน 1%