1. Rosehip Extra Virgin (Rosa rubiginosa - South Africa)

น้ำมันโรสฮิปมีคุณสมบัติช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ และชะลอความเสื่อมของผิวให้คงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ น้ำมันสีส้มกลิ่นหอมหวานบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดีเยี่ยมอุดมไปด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ เป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ลดเลือนริ้วรอย รอยหมองคล้ำหรือรอยแผลเป็นจากสิว ทาแขนเพื่อช่วยให้ผิวชุ่มชื่นหรือบริเวณสะโพกเพื่อป้องกันรอยแตกลาย ได้รับรอง Certified Organic .. [ข้อมูลเพิ่มเติม]

2. Argan (Argania spinosa - Morocco)

น้ำมันบริสุทธิ์จากเมล็ดอาร์แกน ช่วยบำรุงและเพิ่มความนุ่มนวลให้กับผิว รักษาความยืดหยุ่นป้องกันไม่ให้ผิวแห้งและสูญเสียความชุ่มชื้น ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ป้องกันการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวเนื่องจากมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก น้ำมันซึมซาบลงผิวได้อย่างรวดเร็ว ไม่ทิ้งความเหนอะหนะ นำไปใช้รักษาสิวบริเวณใบหน้า ลดรอยแผลเป็นรอยด่างดำ และฟื้นฟูสภาพผมเสียให้กลับมีชีวิตชีวาได้ดี ได้รับรอง Certified Organic จากประเทศฝรั่งเศส .. [ข้อมูลเพิ่มเติม]

3. Black Seed Organic (Nigella sativa - Egypt)

Black Cumin Oil หรือน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ วิตามินเอ บี ซีและแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสีและสารอาหารที่เป็นประโยชน์กว่าร้อยชนิด มีคุณสมบัติบำรุงฟื้นฟูและเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยป้องกันและลดเลือนริ้วรอยจากวัย รอยแผลเป็น จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี รวมทั้งปัญหาผิวหนังที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ หรือนำไปใช้บำรุงเล็บหรือผมให้แข็งแรงเงางามได้เช่นกัน เป็นน้ำมันที่มีประโยชน์และได้รับรอง Certified Organic

4. Cherry Seed (Prunus cerasus - Turkey)

น้ำมันบริสุทธิ์สกัดจากเมล็ดเชอร์รี่ มีกลิ่นหอมหวานตามธรรมชาติ นิยมนำไปใช้เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ฟื้นฟูและบำรุงผิว ช่วยต้านอนุมูลอิสระ กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเสริมสร้างการเจริญเติบโตของผิวใหม่ รวมทั้งเก็บกักความชุ่มชื้นได้ดี มีวิตามิน A, E และสารสำคัญ Alpha-eleostearic Acid ซึ่งเป็นกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีประโยชน์และหายากในน้ำมันบริสุทธิ์ที่ได้จากพืช เหมาะสำหรับใช้ในครีมบำรุงผิว ลิปบาล์ม รวมถึงผลิตภัณฑ์ Anti-Ageing น้ำมันได้รับรอง Certified Organic

5. Grapeseed Virgin (Vitis vinifera - South Africa)

น้ำมันเมล็ดองุ่นแบบสกัดเย็นเป็นน้ำมันที่หายาก เนื่องจากส่วนมากจะเป็นแบบสกัดร้อนเท่านั้น ซึ่งทั้งเกรด Virgin และ Refined มีข้อแตกต่างกันอย่างมาก น้ำมันเกรด Virgin นี้ได้จากการบีบเย็นเมล็ดองุ่นที่ได้จากการผลิตไวน์ ทำให้ได้น้ำมันที่มีสีเขียวเข้มและกลิ่นหอมอบอวลของไวน์องุ่นที่มีคุณค่าของสารอาหารสำคัญอย่างครบถ้วน มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ บำรุงผิวลดเลือนริ้วรอยและช่วยให้ผิวพรรณสดชื่น น้ำมันได้รับรอง Certified Organic .. [ข้อมูลเพิ่มเติม]

6. Jojoba Organic (Simmondsia chinensis - France)

โจโจบา เป็นน้ำมันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและร่างกาย มีองค์ประกอบของสารธรรมชาติที่ทำหน้าที่คล้ายกับคอลลาเจนบนผิวหนัง จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังได้ดีสำหรับทุกสภาพผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย รอยแผลเป็นและรักษาให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา น้ำมันซึมซับลงสู่ผิวได้ดีและรวดเร็วจึงทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเหนอะหนะ ช่วยบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะให้มีสุขภาพดี น้ำมันได้รับรอง Certified Organic

7. Moringa (Moringa oleifera - Kenya)

น้ำมันสกัดจากเมล็ดมะรุม มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้น ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ลดเลือนจุดด่างดำของผิวหรือบนใบหน้าและบรรเทาอาการผื่นคันได้ดี มีฤทธิ์ป้องกันเชื้อราและเชื้อไวรัส สมานแผลสดและฟื้นฟูเซลล์ผิว นำไปใช้เป็นส่วนผสมในน้ำมันนวดคลายอาการตึงกล้ามเนื้อหรือบรรเทาอาการปวดบวมตามข้อ บำรุงหนังศีรษะ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม น้ำมันมะรุมจากเคนยามีสีโทนเขียวและกลิ่นมะรุมชัดเจน ซึ่งบ่งบอกถึงคุณภาพที่ดี .. [ข้อมูลเพิ่มเติม]

8. Pomegranate Virgin (Punica grantaum - Turkey)

น้ำมันบริสุทธิ์จากเมล็ดทับทิม เป็นแหล่งสำคัญของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อนแบบดีที่หายากชนิดหนึ่งชื่อ Punicic Acid มีประสิทธิภาพในการต้านอนุมูลอิสระสูงมาก ช่วยลดอัตราการเสื่อมลงของเซลล์ผิวและการเกิดริ้วรอย เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ช่วยบำรุง ฟื้นฟูและเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผิว ปกป้องผิวจากแสงแดดและยูวี และยังมีสารไฟโตสเตอรอลที่ช่วยลดอาการอักเสบของผิวหนัง รักษาแผล ฟื้นฟูเซลล์ผิว ได้รับรอง Certified Organic .. [ข้อมูลเพิ่มเติม]

9. Raspberry Seed (Rubus idaeus - Chile)

น้ำมันสกัดเย็นจากเมล็ดราสเบอร์รี่ มีประโยชน์อย่างมากในการบำรุงผิว ใช้ผสมในโลชั่นบำรุงผิว ช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ยูวีเอ และยูวีบี มีวิตามิน E และสารแคโรทีนอยด์ที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ชะลอการเสื่อมสภาพของเซลล์ผิวจากมลภาวะให้คงความอ่อนเยาว์อยู่เสมอ อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นโอเมก้า 3 และ 6 เป็นมอยส์เจอไรเซอร์บำรุงให้ผิวนุ่มชุ่มชื่น ซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยลดเลือนริ้วรอย รอยหมองคล้ำ รอยแผลเป็น น้ำมันได้รับรอง Certified Organic

10. Apricot Kernel Virgin (Prunus armeniaca - Middle East)

น้ำมันเมล็ดแอปริคอท ได้มาจากไร่เพาะปลูกในโซนหุบเขาที่ยังคงความบริสุทธิ์ของธรรมชาติและอากาศ อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 6 และ 9 วิตามิน A, B1, B2, B6, B17 และวิตามิน E มีคุณสมบัติในการบำรุงผิวซึมซาบได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ความรู้สึกเนียนนุ่มลื่น และเพิ่มความยืดหยุ่นแก่ผิวได้เป็นอย่างดี น้ำมันมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแอปริคอท เหมาะสำหรับผิวบอบบาง แพ้ง่าย โดยเฉพาะผู้มีผิวแห้ง น้ำมันได้รับรอง Certified Organic

11. Black Seed (Nigella sativa - Turkey)

Black Cumin Oil หรือน้ำมันฮับบาตุซเซาดะฮ์ มีกรดไขมันที่เป็นประโยชน์ วิตามินเอ บี ซีและแร่ธาตุหลายชนิด แคลเซียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม สังกะสีและสารอาหารที่เป็นประโยชน์กว่าร้อยชนิด มีคุณสมบัติบำรุงฟื้นฟูและเก็บกักความชุ่มชื้นให้กับผิว ช่วยป้องกันและลดเลือนริ้วรอยจากวัย รอยแผลเป็น จุดด่างดำได้เป็นอย่างดี รวมทั้งปัญหาผิวหนังที่เกิดจากโรคภูมิแพ้ หรือนำไปใช้บำรุงเล็บหรือผมให้แข็งแรงเงางามได้เช่นกัน เป็นน้ำมันที่มีประโยชน์และคุณสมบัติที่หลากหลาย

12. Borage (Borago officinalis - France)

น้ำมันโบราจมีประโยชน์ต่อร่างกาย เพราะมีสารแกมมาไลโนเลนิก (GLA) เป็นวัตถุดิบที่สำคัญในการสร้างสารที่มีประโยชน์ ช่วยรักษาสมดุลของการทำงานของเซลล์ โดยเฉพาะอาการที่เกี่ยวกับประจำเดือนของสตรี (Premenstrual Syndrome) ลดภาวะความไม่ปกติ และยังช่วยบำรุงผิวพรรณช่วยชะลอการเสื่อมของสภาพผิว ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่น ช่วยลดอาการอักเสบของผิว บำรุงผิวให้สดใส น้ำมันไม่จำเป็นต้องใช้แบบ 100% โดยใช้เพียง 5-10% ในน้ำมันหลักชนิดอื่น

13. Coconut Extra Virgin (Cocos nucifera - Thailand)

น้ำมันมะพร้าวได้จากกระบวนการสกัดเย็น น้ำมันที่ได้มีลักษณะใสไม่มีสีและมีกลิ่นหอมเบา ๆ ของมะพร้าวตามธรรมชาติ เป็นน้ำมันที่อุดมไปด้วยกรดลอริกและมีวิตามินอี ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่สูง ซึ่งมีคุณสมบัติในการเสริมสุขภาพ ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันโรคและบำรุงผิวพรรณได้เป็นอย่างดี นำไปใช้บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีมาก น้ำมันสามารถซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างรวดเร็วจึงเหมาะสำหรับนำไปใช้กับครีมต่าง ๆ หรือใช้บ้วนปากทำ Oil Pulling ก็ได้

14. Hazelnut (Corylus avellana - France)

น้ำมันเมล็ดเฮเซลนัท เหมาะกับการใช้เป็นเครื่องสำอางบำรุงผิว มีคุณสมบัติทำความสะอาด กระชับรูขุมขน ลดปัญหาความสกปรกบนใบหน้าที่เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งน้ำมันยังอุดมไปด้วยวิตามินอี ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยเพิ่มลดเลือนริ้วรอย ทั้งจากจุดด่างดำ รอยแผลเป็น และริ้วรอยจากวัย เป็นมอยเจอร์ไรเซอร์อย่างดี เพิ่มความยืดหยุ่นของผิว ทำให้ผิวเนียนกระชับมากยิ่งขึ้น นอกจากบำรุงผิวแล้ว ยังสามารถนำไปบำรุงผมให้มีสุขภาพดีและแข็งแรงได้อีกด้วย

15. Jojoba Golden (Simmondsia chinensis - France)

โจโจบา เป็นน้ำมันที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในการนำไปใช้กับผลิตภัณฑ์บำรุงผิวและร่างกาย มีองค์ประกอบของสารธรรมชาติที่ทำหน้าที่คล้ายกับคอลลาเจนบนผิวหนัง จึงทำให้มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังได้ดีสำหรับทุกสภาพผิว ช่วยลดเลือนริ้วรอยแห่งวัย รอยแผลเป็นและรักษาให้ผิวชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา น้ำมันซึมซับลงสู่ผิวได้ดีและรวดเร็วจึงทำให้ผู้ใช้ไม่รู้สึกเหนอะหนะ อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้ร่วมกับน้ำมันหอมระเหยหลาย ๆ ชนิดในการบำรุงเส้นผมและหนังศีรษะได้ดีอีกด้วย

16. Moringa Organic (Moringa oleifera - India)

น้ำมันมะรุม มีคุณสมบัติช่วยบำรุงผิวหนังให้ชุ่มชื้น ชะลอการเกิดริ้วรอยแห่งวัย ลดเลือนจุดด่างดำของผิวหรือบนใบหน้าและบรรเทาอาการผื่นคันได้ดี มีฤทธิ์ป้องกันเชื้อราและเชื้อไวรัส สมานแผลสดและฟื้นฟูเซลล์ผิว นำไปใช้เป็นส่วนผสมในน้ำมันนวดเพื่อคลายอาการตึงกล้ามเนื้อหรือบรรเทาอาการปวดบวมตามข้อ ใช้บำรุงหนังศีรษะ กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นผม น้ำมันจากอินเดียมีสีเหลืองทอง แตกต่างจากของเคนยาที่ออกโทนเขียว น้ำมันได้รับรอง Certified Organic

17. Olive Extra Virgin (Olea euopaea - Italy)

น้ำมันจากผลมะกอก หรือ Olive Extra Virgin เป็นเกรดที่ดีที่สุด อุดมไปด้วยคุณค่าของผลมะกอก มีสีเขียวใสค่อนข้างเข้ม มีคุณสมบัติเด่นในการนำไปใช้บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะแห้ง หรือนำไปใช้เป็นน้ำมันนวดร่างกายเพื่อบำรุงผิวและป้องกันรอยแตกลาย หรือลดอาการคัน อักเสบตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย แถมยังมีคุณสมบัติป้องกันรังสี UV ในระดับ SPF 20 อีกด้วย ได้รับรอง Certified Organic จากประเทศฝรั่งเศส

18. Pumpkin Seed (Cucurbita pepo - France)

น้ำมันเมล็ดฟักทอง นอกจากประโยชน์ในการป้องกันโรคภัย เช่น ระบบทางเดินอาหาร อาการวัยทอง ยังดีต่อการนำไปบำรุงผิวพรรณอีกด้วย น้ำมันสีส้มแดงเหมาะสำหรับทุกสภาพผิว อุดมไปด้วยเบต้าแคโรทีน, วิตามินอี, วิตามินบี, และสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยฟื้นฟูสภาพผิว บำรุงเซลล์ผิวให้แข็งแรง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีผิวแห้งหรือมีปัญหาผิวหนัง เช่นผื่นผิวหนัง eczema นอกจากนี้ ยังนำไปบำรุงผม ใช้ร่วมกับแชมพูหรือครีมนวดผม ช่วยลดการหลุดร่วงของเส้นผมได้ดี

19. Sea Buckthorn (Hippophae rhamnoides - China)

ซีบัคธอร์นเป็นพืชโบราณที่มีประโยชน์มาก น้ำมันสีส้มแดงสกัดได้จากส่วนผลซึ่งเป็นส่วนที่มีคุณค่าสูงสุด ประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระหลายชนิดในปริมาณมาก วิตามิน A, C, E แร่ธาตุต่าง ๆ สารเบต้าแคโรทีน กรดอะมิโนที่เป็นประโยชน์ และกรดไขมันจำเป็นอีกหลายชนิด มีคุณสมบัติช่วยดูดซับไขมันลดคลอเรสเตอรอลในเส้นเลือด บำรุงผิวให้มีสุขภาพดี ปกป้องผิวจากรังสียูวีและการถูกแดดเผา ชะลอการเสื่อมของเซลล์ผิวทั้งจากปัจจัยภายนอกอย่างมลภาวะ หรือการเสื่อมตามวัย

20. Sesame (Sesamum indicum - Thailand)

น้ำมันงาได้รับความนิยมในการใช้มานาน มีบันทึกประโยชน์ของน้ำมันชนิดนี้ในตำราอายุรเวทของอินเดียและตำรายาของจีน มีสรรพคุณต้านเชื้อแบคทีเรีย เชื้อรา และเชื้อไวรัส น้ำมันมีส่วนประกอบของกรดไขมันจำเป็นไลโนเลอิก ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านการเติบโตของเซลล์มะเร็ง มีสารต้านอนุมูลอิสระเมื่อซึมซาบลงสู่ผิวแล้วจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งผิวหนัง ควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์ให้เป็นปกติ นำมาใช้นวดเพื่อช่วยให้ผิวเนียนนุ่มและลดริ้วรอยจากวัย

21. Tamanu (Calophyllum inophyllum - India)

Tamanu เป็นต้นไม้ที่มีแหล่งกำเนิดจากเกาะมาร์ดากัสการ์และประเทศอินเดีย น้ำมันที่สกัดได้จากเมล็ดมีสีเขียวน้ำตาลเข้ม ด้วยคุณสมบัติเป็นมอยเจอร์ไรเซอร์ทำให้น้ำมันมีคุณสมบัติที่ดีมากในการบำรุงและปกป้องผิวจากแสงแดดและมลภาวะ อีกทั้งยังอ่อนโยนกับผู้ที่มีปัญหาผิวหนัง อาการแพ้หรือผื่นคัน เป็นน้ำมันที่มีคุณสมบัติดีมากในการช่วยในการกระตุ้นการผลัดผิวและการเจริญเติบโตของเซลล์ผิวใหม่ จึงสามารถนำไปใช้รักษาแผล ลดเลือนริ้วรอยและรอยแผลเป็นบริเวณผิวได้ดี